วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คริสเตียโน โรนัลโด


เมื่ออายุ 12 ปี โรนัลโดได้รับความสนใจจากสโมสรใหญ่ ๆ ของโปรตุเกสมากมาย โรนัลโด เลือกค้าแข้งกับ สปอร์ติง ลิสบอน ทีมโปรดของตัวเอง จนอายุ 17 ปี โรนัลโด ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ สปอร์ติง เป็นครั้งแรก แล้วก้าวไปติดทีมชาติโปรตุเกสชุดอายุต่ำกว่า 17 ปีในศึกชิงแชมป์ยุโรป
โรนัลโดมีจุดเด่นที่มีทักษะในการครองบอลและมีความคล่องตัวสูง ด้วยจุดนี้เอง ทำให้เซอร์
อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้สนใจที่จะนำโรนัลโดมาร่วมทีม และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้คว้าตัว โรนัลโด ไปร่วมทีมได้สำเร็จ ด้วยค่าตัว 12.5 ล้านปอนด์ ในฤดูกาล 2003-2004 โรนัลโด ใช้เวลาไม่นานนักในการปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ชิพ และผลงาน 8 ประตู จากการลงสนาม 39 นัด ซึ่งรวมถึงประตูแรกในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ กับ มิลล์วอลล์ ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Sir Matt Busby Player of the Year) ประจำฤดูกาล 2003/04

คริสเตียโน โรนัลโด เล่นในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โรนัลโดกับการพาทีมชาติโปรตุเกสผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร 2004 ก่อนพ่ายให้กับ กรีซ
ในฤดูกาลที่ 2 ของโรนัลโดกับ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มไม่ดีเท่ากับปีแรก หลังจากที่จบฤดูกาลด้วยการลงสนาม 50 นัด แต่ทำได้แค่ 9 ประตู ในฤดูกาล 2005/06 โรนัลโด ก็เรียกฟอร์มเก่งของตัวเองมาได้อีกครั้งในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง ด้วยการทำ 12 ประตู จากการลงสนาม 47 นัด
โรนัลโดคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟิฟโปร (FIFPro Special Young Player of the Year 2005) ซึ่งเป็นรางวัลเดียวที่ให้แฟนๆ เป็นผู้ลงคะแนนโหวตตัดสิน และในปีเดียวกันเขาก็ได้อันดับที่ 20 ในตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าด้วย
ในศึก
ฟุตบอลโลก 2006 โรนัลโด ถูกแฟนบอลอังกฤษรุมโห่ไล่หลังจากที่มีส่วนทำให้ เวย์น รูนีย์ เพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องถูกไล่ออกในเกมที่อังกฤษพบกับโปรตุเกส โรนัลโดถูกสื่อในอังกฤษกดดันและต่อว่า อย่างไรก็ดีโรนัลโดยังคงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2009 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยอมรับว่า ได้รับข้อเสนอการซื้อตัวจาก
สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ปรากฏว่าคริสเตียโนก็มีความต้องการที่จะออกจากคลับเช่นกัน โดยเขาได้ตกลงย้ายออกไป การซื้อตัวครั้งนี้ถือเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น